ยุทธศาสตร์และแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้
สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี)
รับผิดชอบจังหวัดอุดรธานี จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู และ จังหวัดบึงกาฬ
|
1. ภาพรวมโดยทั่วไป
1.1 จังหวัดอุดรธานี จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดบึงกาฬ เป็นกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตามยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัด (กลุ่มที่ 6.1) มีชายแดนติดต่อกับประเทศ สปป.ลาวระยะทางยาวประมาณ 330 กิโลเมตร โดยมีแม่น้ำโขงกั้นเขตแดน
1.2 พื้นที่ทั้ง 5 จังหวัด มีพื้นที่ประมาณ 21.50 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 20.40 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงสลับภูเขา มีพื้นที่ป่าไม้ประมาณ 4.3 ล้านไร่คิดเป็นร้อยละ 20.35 ของพื้นที่กลุ่มจังหวัด มีธรรมชาติที่สวยงาม มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศอันดับสองของภาค เป็นรองแค่เพียงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เท่านั้น มีแหล่งต้นน้ำที่สำคัญหลายสาย อาทิเช่น น้ำป่าสัก น้ำพอง น้ำเลย น้ำชี น้ำโมง และห้วยหลวง ฯลฯ
2. สภาพปัญหา
2.1 กลุ่มจังหวัดนี้ มีบทบาทเป็นประตูการค้าและการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านที่สำคัญที่ สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป ไม้เมืองหนาว และยางพาราของภาคมีผลผลิตอ้อยโรงงานประมาณ 4.6 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 25 ของผลผลิตอ้อยในภาค มีโรงงานน้ำตาลขนาดใหญ่ 2 แห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้เกษตรกรเปลี่ยนมาปลูกยางพารามากขึ้น โดยมีพื้นที่ปลูกรวมประมาณ 2.9 แสนไร่คิดเป็นร้อยละ 45 ของการปลูกยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้น จึงส่งผลกระทบต่อทรัพยากรป่าไม้เป็นอย่างมาก เกิดปัญหาทำให้มีการบุกรุกเข้าครอบครองพื้นที่ทำการเกษตร ทำให้สภาพป่าเสื่อมโทรมมากกว่า 3 แสนไร่ และมีราษฎรในพื้นที่กลุ่มจังหวัด จำนวนนับหมื่นรายเข้าครอบครอง พื้นที่ของรัฐ (ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ ป่า) ซึ่งเป็นปัญหาที่จะต้องดำเนินการแก้ไขตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541
2.2 ผลจากการปฏิรูประบบราชการ ทำให้หน่วยงานที่บริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ แบ่งออกไปอยู่คนละกรม เช่น กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกิดความสับสนต่อประชาชน และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในบางประการ
2.3 ในแง่ของบทบาทหน้าที่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 6 (อุดรธานี) มีหน้าที่ดูแลพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติตามกฎกระทรวง ทั้งสิ้น 55 ป่า เนื้อที่รวมประมาณ 8.5 ล้านไร่เศษ แต่ในข้อเท็จจริงได้มีการส่งมอบพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้แก่ ส.ป.ก. นำไปปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร ไปเป็นจำนวนมากแล้ว ดังจะเห็นได้ว่า จากสถิติการป่าไม้ปี พ.ศ. 2547 ระบุว่า เนื้อที่ป่าไม้ของจังหวัดอุดรธานี เลย หนองคาย และหนองบัวลำภู มีพื้นที่ป่าเหลืออยู่เพียง 4.3 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 20.35 ของพื้นที่กลุ่มจังหวัด
3. ประเด็นท้าทาย
จะต้องบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ เพื่อรักษาสมดุลธรรมชาติและระบบนิเวศ ท่ามกลางกระแสความต้องการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้อย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบตัดไม้ แปรรูปไม้ และการบุกรุกถือครองพื้นที่ป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายพื้นที่การเกษตร เช่น ยางพารา
4. ศักยภาพ โอกาส และข้อจำกัด
4.1 พื้นที่ในความรับผิดชอบของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 6 (อุดรธานี) เป็นพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน บริเวณจังหวัดหนองคาย หนองบัวลำภู เลย และอุดรธานี มีชายแดนติดแม่น้ำโขง มีปริมาณฝนตกชุกเกินกว่าค่าเฉลี่ยของภาค จึงทำให้มีโอกาสที่ทรัพยากรป่าไม้จะฟื้นคืนตัวได้เร็ว หากมีระบบการป้องกันพื้นที่ป่าที่มีประสิทธิภาพ และได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการฟื้นฟูป่า
4.2 มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อมที่สวยงามหลายแห่งสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้หรือการท่องเที่ยว เชิงนิเวศได้ นอกจากนี้ยังมีวัด
ป่าสายพระอาจารย์มั่นภูริทัตโตอนุรักษ์ป่าร่วมกับกรมป่าไม้หลายแห่งทำให้มี โอกาสในการเชื่อมโยงการจัดการทรัพยากรป่าไม้แบบมีส่วนร่วมได้อย่างคุ้มค่า และยั่งยืน |
แผนยุทธศาสตร์ของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) ปี พ.ศ. 2550 – พ.ศ. 2553
|
วิสัยทัศน์ (Vision)
สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) เป็นหน่วยงานหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ ให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน” |
พันธกิจ (Mission)
1. เพื่อสร้างการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ แบบบูรณาการเชิงรุก โดยกระบวนการ มีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
2. เพื่อพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรป่าไม้ โดยสอดคล้องกับหลักการอนุรักษ์ และความต้องการของชุมชน ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน |
ประเด็นยุทธศาสตร์ (Strategies Issues)
1. การอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้ให้คงสภาพไว้และฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้มีสภาพสมบูรณ์โดยการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน
2. การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ทั้งในเขตเมืองและชนบท เพื่อลดการพึ่งพิงป่าธรรมชาติให้น้อยลง
3. การเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้กับทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศ
และต่างประเทศ
4. การพัฒนาศักยภาพทรัพยากรป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพ
5. การยกระดับการพัฒนาคุณภาพขององค์กร (สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้) |
กลยุทธ์ (Strategies)
1. ยุทธศาสตร์ : การอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้เดิมให้คงสภาพไว้และฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้มีสภาพสมบูรณ์ โดยการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน
ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ คือ
กลยุทธ์ที่ 1.1 เพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครอง เฝ้าระวัง ดูแลรักษา ประชาสัมพันธ์ ป้องกันปราบปรามและการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้โดยการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน
กลยุทธ์ที่ 1.2 เร่งรัดฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม โดยรูปแบบต่าง ๆ ให้กลับคืนความสมบูรณ์โดยเร็ว
กลยุทธ์ที่ 1.3 เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของป่า ตามหลักการอนุรักษ์ดินและน้ำ โดยการจัดทำฝายต้นน้ำ ตามแนวพระราชดำร ตลอดทั้งการปลูกพืชคลุมดินเพื่อชะลอการไหล ของน้ำและลดการพังทลายของดิน เป็นการป้องกันภัยธรรมชาติ
กลยุทธ์ที่ 1.4 ลดความขัดแย้งในการใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้และที่ดินของรัฐโดยการจัดระเบียบการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ การใช้ประโยชน์พื้นที่ป่า และการพิสูจน์ สิทธิการถือครองทำกิน
2. ยุทธศาสตร์ : การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ทั้งในเขตเมืองและชนบท เพื่อลดการพึ่งพิงป่าธรรมชาติให้น้อยลง
ประกอบด้วย 5 กลยุทธ์ คือ
กลยุทธ์ที่ 2.1 ส่งเสริมการปลูกป่าในพื้นที่ของรัฐ เอกชน และประชาชน
กลยุทธ์ที่ 2.2 ส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจและไม้โตเร็ว
กลยุทธ์ที่ 2.3 เพิ่มศักยภาพการเพาะชำกล้าไม้ ทั้งไม้ป่าและไม้เศรษฐกิจ
กลยุทธ์ที่ 2.4 ส่งเสริมและพัฒนาป่าชุมชน จัดตั้งป่าชุมชนและพัฒนาเครือข่ายป่าชุมชน
กลยุทธ์ที่ 2.5 ส่งเสริมการประกอบอาชีพแบบวนเกษตร การปลูกไม้อเนกประสงค์และปลูกพืชทดแทนพลังงาน
3. ยุทธศาสตร์ : การเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้กับทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ คือ
กลยุทธ์ที่ 3.1 ศึกษา วิจัย และจัดการองค์ความรู้ของชุมชนท้องถิ่นในการจัดการทรัพยากรป่าไม้ ตลอดทั้งส่งเสริมการถ่ายทอดความรู้ เทคโนโลยี และการแลกเปลี่ยนภูมิปัญญา
กลยุทธ์ที่ 3.2 ส่งเสริมให้ประชาชน ชุมชน องค์กรพัฒนาเอกชน และทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วม ในการจัดการทรัพยากรป่าไม้ โดยเริ่มตั้งแต่การร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติร่วมรับประโยชน์ และร่วมติดตามประเมินผล
กลยุทธ์ที่ 3.3 เสริมสร้างทักษะ ประสบการณ์ และพัฒนาศักยภาพ ของสมาชิกอาสาสมัครต่าง ๆ ที่กรมป่าไม้เคยจัดตั้ง
กลยุทธ์ที่ 3.4 เชื่อมโยงเครือข่ายองค์กรในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้
4. ยุทธศาสตร์ : การพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ คือ
กลยุทธ์ที่ 4.1 จัดทำฐานข้อมูลทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่รับผิดชอบ (อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู และเลย) โดยการสำรวจ ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลตามหลักสถิติ และวิชาการที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ
กลยุทธ์ที่ 4.2 เสริมสร้างประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ข้อมูลทรัพยากรป่าไม้ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารที่ทันสมัย รวมทั้งบูรณาการเครือข่ายข้อมูลให้เกิดความเชื่อมโยงและให้ชุมชนเข้าถึงข้อมูลและใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึง
กลยุทธ์ที่ 4.3 คุ้มครองรักษาแหล่งพันธุ์ไม้ พันธุกรรมพืช แหล่งธรรมชาติที่สำคัญหรือซากดึกดำบรรพ์ เพื่อจัดการและพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้หรือแหล่งเรียนรู้หรือแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้มีคุณภาพระดับมาตรฐาน และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม
5. ยุทธศาสตร์ : การยกระดับการพัฒนาคุณภาพขององค์กร (สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้)ประกอบด้วย กลยุทธ์ คือ
กลยุทธ์ที่ 5.1 ปรับปรุงโครงสร้าง ระบบ และกระบวนงาน ควบคู้ไปกับการเพิ่มขีดสมรรถนะ บุคลากรและสร้างมาตรฐานการปฏิบัติงาน ตามหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดีและการบริหารภาครัฐแนวใหม่
กลยุทธ์ที่ 5.2 ปรับปรุงสำนักงาน ตลอดทั้งเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงานเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงาน
กลยุทธ์ที่ 5.3 เสริมสร้างประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ การตัดสินใจโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัยที่มีความเชื่อมโยงของเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
กลยุทธ์ที่ 5.4 พัฒนากลไกและระบบการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับของประชาชน |
|